เขียนไว้ข้างเตียง
จำได้ว่าชอบเวอร์ชันนันทิดา แก้วบัวสายมากๆ (น่าจะเพราะแม่เปิดฟังบ่อยๆ) คิดว่าเพลงมันเข้าขั้นอมตะไปแล้ว ก็ไม่คิดว่าจะมีใครหยิบมารีเมค
จนไม่กี่วันก่อนก็เห็นว่า PARADOX เอาเพลงนี้มาตีความใหม่ โดยใส่ความเป็นร็อกตามสไตล์ที่ถนัดเข้าไป ก็ถือว่าโอเคนะ ไม่ทำทับแนวเดิมที่ตั้งมาตรฐานไว้สูง แถมยังดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้มาสนใจเพลงนี้ได้อีกด้วย
ดู MV แว๊บแรกแล้วยอมรับเลยว่าโคตรตื่นเต้น เฮ้ย เพลงแม่งใส่รหัส 0-1 มาให้หวะ น่าจะมีเรื่องราวมีการผูกปมอะไรเจ๋งๆ ให้ถอดรหัสค้นหาเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรแน่ๆ
แต่ว่าพอดูไปเรื่อยๆ แล้วถึงกับกุมขมับ โค้ดต่างๆ ที่เห็นนี่มันคืออะไรกัน? กฎการไขรหัสลับก็ไม่ชัดเจน โค้ดรหัสที่ให้มาก็ดูขาดๆ หายๆ สุดท้ายก็เลยหาความลับที่ซ่อนไว้ไม่เจอ
เริ่มตั้งแต่รหัสที่ใช้ มีแค่เลข 0-1 ก็จริง แต่มันไม่ใช่รหัส ASCII แบบที่คนทำงานสายคอมพิวเตอร์คุ้นเคยกัน … ซึ่งก็โอเคอันนี้ยอมรับได้ ในเมื่อต้องการให้เป็นรหัสลับ ก็ไม่ควรใช้มาตรฐานเดียวกันกับรหัสอะไรที่มีอยู่จริง ไม่งั้นคนอื่นคงถอดรหัสดูความลับเอาได้ง่ายๆ
แล้วความคาใจอย่างแรกก็เริ่มปรากฏ เมื่อไล่ดูโค้ดแต่ละตัวไปเรื่อยๆ และพบว่า มันไม่ได้มีความยาวเท่ากันหมดนะ บางตัวสั้นแค่ 7 อักษร ส่วนอีกบางตัวก็ยาวได้ถึง 9 ตัวอักษร … เอ่อ ทำไมไม่ใช้โค้ดยาวเท่าๆ กันนะ? อย่างน้อยจะได้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม
ก็ยังจะอุตสาห์คิดแก้ต่างให้ โดยคิดว่ารหัสมอร์สเค้ายังให้โค้ดอักษรแต่ละตัวยาวไม่เท่ากันเลยนะ MV นี้ก็อาจจะเข้ารหัสแบบฮัฟฟ์แมน ที่ย่อตัวอักษรที่ใช้บ่อยๆ ให้สั้นกว่าตัวอื่น เพื่อบีบอัดโค้ดผลลัพธ์ให้ประหยัดสั้นที่สุดก็เป็นได้ และอาจมีการทำ พาริตีบิตหรือเช็คซัม เพื่อตรวจสอบความผิดพลาดว่าส่ง/รับรหัสมาถูกต้องครบถ้วนหรือเปล่า เลยได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นโค้ดอย่างที่เห็นนี้
แต่มันก็ยังมีความคาใจอย่างที่สองที่โผลมาพร้อมกัน คือในกระดาษที่เป็นกุญแจสำหรับถอดรหัสเนี่ย มันดันไม่เรียงตัวอักษรให้หาโค้ดง่ายๆ เอาซะเลย กลับไปสลับที่ตัวอักษรมั่วๆ แล้วก็ให้อักษรมาไม่ครบทุกตัวอีก … แถมที่งงที่สุดก็คือ ตัวอักษรตัวเดียวดันมีได้หลายโค้ด!!
???????? 001111000 010110010 011011110 011101010 ? C Y O U 11000001 100011100 011001010 011000011 011101001 B Y A R E 110000111 001100110 010010010 010110110 010111100 S T B E A 110001100 111001100 101011110 010101011 011101110 A P U T I 100001111 1100011111 010100001 010111110 011011011 R Q F U L 110011100 10001100 011010000 011011110 011011101 P W T O D 110010110 11001000 011001010 010110010 Q R A Y
กุญแจถอดรหัสที่จะเห็นในนาทีที่ 0:29, 0:40, 2:10
ก็ยังจะพอแถให้ได้อยู่นะ ว่าถ้าดูแค่ 3 คอลัมน์ขวา มันจะได้เรียงว่า “YOU ARE BEAUTIFUL TODAY”
แล้วความคาใจที่ทำให้เซ็งที่สุดก็บังเกิด เมื่อ MV แสดงให้เห็นว่ามีกุญแจไขรหัสชุดที่สอง! ซึ่งมองแว็บแรกก็ดูดี เพราะมันเรียงตัวอักษรต่างๆ ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
01011001 01101111 010110?? ???????? ???????? A B C D E 01100101 01100001 0110010? 01100001 ???????? F G H I J 01001001 01011011 0100100? 01011011 01001001 K L M N O 10101001 01010101 10101001 1010101 10101001 P Q R S T 010100?? 01011111 01010000 ??????? 010100?? U V W X Y 01101000 01101111 ???????? ??????? ???????? Z 1 2 3 4 011???? 01011001 ???????? ??????? ???????? 5 6 7 8 9
กุญแจถอดรหัสชุดที่สอง ในนาทีที่ 2:12, 2:19, 2:46
แต่นอกจากกุญแจชุดที่สองจะให้ตัวอักษรแต่ละตัวใช้โค้ดต่างไปจากกุญแจชุดแรกแล้ว ทำไมตัวอักษรคนละตัวในกุญแจชุดนี้ถึงใช้โค้ดเดียวกันได้วะ! เฮ้ยแล้วแบบนี้แม่งจะไขรหัสได้ยังไง??
และแม้ลายมือนางเอกจะน่ารัก แต่โค้ดที่เธอจดๆ ลงกระดาษตลอดทั้ง MV น้อยตัวมากที่จะสามารถย้อนกลับไปหาโค้ดในกุญแจได้จริงๆ ยิ่งพอเป็นประโยคที่ประโยคที่ถอดรหัสมาให้เทียบกันด้วยแล้ว ยิ่งรู้เลยว่าเขียนตัวเลขลงไปมั่วๆ แน่นอน
ก็เอาง่ายๆ ว่าโค้ดตอนต้นเพลงในเพจเจอร์ คุณเธอจดลงกระดาษมาแปลแค่ 10 ตัวอักษร แล้วทำไมถอดรหัสเสร็จถึงแปลงกลับไปเป็นประโยคที่ยาว 23 ตัวอักษรซะได้?
อึม … ถ้ามองในแง่ดี คนทำ MV นี่ถือว่าประสบความสำเร็จมากๆ นะ ที่ทำให้รหัสลับมันเป็นรหัสลับจริงๆ ไม่มีใครสามารถไขมันออกได้
แต่ถ้ามองตามความเป็นจริง เฮ้ย นี่มันงานเผานี่หว่า! หาข้อมูลมาไม่เป๊ะ คิดอยากทำอะไรก็ทำลงไปแบบมั่วๆ ขอแค่ให้ภาพลักษณ์ออกมาดูสวยๆ ฮิปๆ คูลๆ แต่จริงๆ แล้วข้างในสุดแสนจะกลวง ไม่ได้มีความหมายอะไรให้ค้นหาแม้แต่นิดเดียว
ก็ไม่น่าแปลกใจที่ MV จะดึงดูคอมเมนต์ประเภท “สมัยก่อนนี่ดีจัง จะบอกรักแต่ละทีต้องบอกเป็น 0-1 ค่อยๆ ถอดรหัสทีละตัว”
ฟังดูดี แต่ถามจริงเกิดไม่ทันยุคนั้นหรือเป็นพวกบ้ามโน? เพจเจอร์มันส่งเป็นตัวอักษรที่มนุษย์อ่านรู้เรื่องได้ ไม่ต้องมาบอกกันเป็นรหัส 0-1 บ้าบอเหมือนใน MV นี้
ส่วนที่ต้องส่งเป็นรหัส ก็เพราะว่าเค้าไม่อยากให้ใครจับได้ว่าเป็นชู้ไง! ซึ่งสมัยนี้ถ้าริจะเป็นชู้กันแม่งก็ยังต้องส่งรหัสลับอยู่ดี ไม่ได้เป็นเรื่องโรแมนติกหรือว่าจำกัดอยู่แค่ในอดีตแต่อย่างใด
แล้วไอ้การเข้ารหัสลับเพื่อซ่อนข้อความจากสายตาคนอื่น แทนที่จะไปเลือกการเข้ารหัสที่มันสั้นง่ายตีความได้รวดเร็ว ไม่ต้องพกกุญแจใหญ่ยักษ์มาถอดรหัสทีละตัวอักษร (เช่น 23 = เจอกัน, 42 = ที่เดิม, 69 = 😮😛) กลับไปเลือกใช้รหัส 0-1 ที่มองผ่านๆ แล้วสวยงามสมกับเป็นยุคดิจิทัล แต่เมื่อเจาะลึกลงไปในรายละเอียดแล้วกลับพบว่าใช้อย่างมั่วๆ ผิดๆ ซะได้!
เซ็ง เซ็ง เซ็ง เจอแบบนี้เข้าไปก็คงได้แต่ถอนหายใจแล้วบอกว่า
SVhGTiBCUlggU0RVREdSQQ==
author