พายุ หมอกจาง ควันไฟ
แม้ไร้ซึ่งสายลมจากภายนอก แต่กลับเปี่ยมไปด้วยพายุในจิตใจ
02:20
สวัสดีไดอารี่ที่รัก (เอ๊ะ หรือฉันควรเรียกเธอว่าบล๊อกดี จะได้ดูร่วมสมัยหน่อย) กี่ปีแล้วนะที่ฉันห่างหายไป 3 ปี? 5 ปี? จำได้ว่าครั้งก่อนมีเหตุระเบิดอะไรซักอย่าง แต่ในใจของฉันกลับโศกเศร้าจากเรื่องราวก่อนหน้า จนไม่มีสมาธิจิตใจที่จะห่วงใยโลกรอบตัวเอาเสียเลย
ใจจริงฉันก็คิดถึงและอยากเขียนหาแกให้บ่อยกว่านี้ แต่ก็ไม่นึกว่าจะต้องมาเขียนถึงแกเพราะสาเหตุนี้ สาเหตุที่คลับคล้ายคลับคลาว่าจะย้อนเวลาให้ฉันกลับไปยังวันนั้นอีกรอบ
เพราะจริงๆ แล้วฉันมันก็แค่คนโง่เขลาคนหนึ่ง ที่นึกอยากจะฉีกกรอบระเบียบประเพณีสังคมอันคร่ำครึทิ้งไป โดยไม่ได้หันกลับมาประเมินดูเลยว่า ตัวเองพร้อมหรือยังที่จะรับแรงกระแทกจากการเปลี่ยนแปลงกระทันหันนั้น
ฉันก็แค่อยากจะเชื่อในโลกใหม่ที่สดใสสวยงามกว่าตอนนี้ แต่ฉันก็คงแก่เกินกว่าที่จะต่อสู้ฝ่าฟันเพื่อให้ได้เข้าไปอยู่ในโลกใบนั้นแล้วสิ และฉันก็คิดว่าฉันคงหันหลังกลับไปยังหนทางประเพณีเดิมๆ ที่ฉันไม่เคยมองและไม่มีวันมองเห็นความเป็นเหตุเป็นผลได้เช่นกัน
สับสนไปหมด ฉันไม่รู้อีกแล้วว่าอะไรคือความจริง ความดี ความงาม ฉันควรทำอย่างไรจากนี้ต่อไป จะมีแห่งใดบนโลกที่พร้อมโอบอุ้มวิญญาณอันหลงทางที่ร่วงหล่นเช่นฉันอย่างอ่อนโยน เพราะแม้แต่ฉันเองยังไม่รู้เลยว่าฉันต้องการอะไรกันแน่
09:19
พายุเริ่มสงบเพราะหนังตาที่อดนอนและสมองที่พยายามหาทางออกจากเขาวงกตมาทั้งคืน ทิ้งไว้ให้เหลือแต่หมอกจางๆ หรือควันที่คล้ายกันจนบางทีไม่อาจรู้
ฉันไม่อยากหลอกตัวเอง แต่ฉันคงหวังไม่ได้หรอกว่าสิ่งนั้นจะเป็นหมอกที่งดงามและเยือกเย็น
ทั้งที่ฉันก็รู้ดีว่าฉันคงจะเสียน้ำตาเจียนขาดใจตาย ถ้าสิ่งนั้นเป็นควันไฟแม้ว่าแสนจะบางเบา
หวังว่าฉันคงจะไม่ต้องมาเขียนถึงเธอด้วยสาเหตุนี้อีกนะ
author