Past Lives (2023)
เข้าโรงหนังไปดูแบบไม่รู้อะไรมาก่อน (รู้แค่ว่าคนรอบตัวเชียร์) ปรากฏว่าเป็นหนังรักสามเส้าที่หน่วงจนแทบทำให้หายใจไม่ออก ส่วนหลักๆ ก็คงเป็นเพราะเราได้เห็นตัวเองสะท้อนออกมาจากตัวละครทุกตัวในเรื่อง เหมือนกับกำลังนั่งมอง “ชาติที่แล้ว” ของตัวเองยังไงยังงั้น
ตั้งแต่ฝ่ายหญิงที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวหลังจอ กับการได้ “คุย” กับคนที่ชอบแม้ต้องแหกขี้ตาตื่นขึ้นมาในเวลาที่ไม่คุ้นเคย แม้ต่อมาจะพ่ายแพ้ให้กับเวลาที่ห่างกันกว่า 13 ชั่วโมงที่ไม่มีหวังจะถูกย่นระยะให้ลดลงได้ จนสุดท้ายเธอต้องยกธงยอมแพ้ให้กับโชคชะตาที่ไม่เอื้อโอกาสให้ความรักได้ออกดอกผลิบาน แล้วกลับไปไล่ล่าตามหนทางความฝันไม่ว่าจะเป็นโนเบล พูลิชเชอร์ หรือโทนี
หรือกับฝ่ายชายผู้มาทีหลังที่เหมือนกับว่าเขาจะเป็นชายผู้โชคดีที่สุดในเรื่อง กับจังหวะสถานการณ์ต่างๆ ที่ส่งให้เข้าไปเติมเต็มเธอในวันที่อ่อนแอ (แม้มันจะทำให้เขาแอบคิดในใจไม่ได้ว่าเธอเลือกแต่งงานกับเขาเพียงเพราะหวัง green card ก็ตามที) แต่แล้วจิตใจของเขาก็ต้องสั่นคลอนเมื่อในที่สุดรักแรกของเธอก็รวบรวมความกล้ามากพอที่จะบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาเธอเสียที จนนำไปสู่สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อเขาถูกเชิญให้ร่วมโต๊ะอาหารกับทั้งคู่ที่เคยมีเยื่อใยให้กัน ซึ่งทำให้เขาทำได้เพียงแต่เฝ้ามองเธอล่องลอยห่างออกไปก็เท่านั้น
ไปจนถึงเรื่องราวของฝ่ายชายผู้มาก่อน ผู้ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นรักแรกของเธอ (แม้โดยทางการแล้วจะไม่มีสถานะใดๆ ก็ตาม) ผู้ซึ่งไม่ยอมลงหลักปักฐานแต่งงานกับใครอื่น เพราะว่าเป็นลูกคนเดียวที่โดนแรงกดดันจากครอบครัวว่าต้องเลิศเลอเพอร์เฟคทั้งหน้าที่การงานเงินเดือนไปจนถึงคู่ครองที่จะมาสืบทอดวงศ์ตระกูล แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถทิ้งทุกอย่างลงได้หากสุดท้ายแล้วจะมีโอกาสแม้นเพียงนิดให้ได้กลับไปสมหวังกับเธอ
ไม่รู้ว่าคนอื่นจะเคยผ่านประสบการณ์แบบนี้เหมือนกันมั้ย แต่ก็อึมม เอ่อออ นั่นแหละ เขียนต่อไม่ออกแล้วหว่ะเพราะมันจุกไปหมด
author